การปรับเทียบคุณสมบัติ Pace and Distance บน HRM-Pro หรือ HRM-Pro Plus

คุณสมบัติอัตราการวิ่งและระยะทางใน HRM-Pro หรือ HRM-Pro Plus จะแม่นยำยิ่งขึ้นด้วยการสอบเทียบ มีสองวิธีในการปรับเทียบสายรัดของคุณ ซึ่งทั้งสองวิธีกำหนดให้คุณต้องจับคู่สายรัดกับนาฬิกาของคุณ:

การปรับเทียบอัตโนมัติ

เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณวิ่งออกไปข้างนอกโดยมี GPS พร้อมสายรัดของคุณ เพื่อให้ได้การปรับเทียบอัตโนมัติที่ดีที่สุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการวิ่งกลางแจ้งของคุณครอบคลุมช่วงความเร็ว Pace เดียวกันกับที่คุณวิ่งบนลู่วิ่งตามปกติ

หมายเหตุ: โดยปกติแล้ว การวิ่งกลางแจ้งจะใช้เวลาประมาณ 120 นาทีเพื่อปรับเทียบ HRM ของคุณ แม้ว่าความแม่นยำจะยังคงปรับปรุงต่อไป ยิ่งคุณวิ่งออกไปข้างนอกมากขึ้น

การปรับเทียบอัตโนมัติจะ ไม่ เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้:

• วิ่งในร่ม

• การวิ่งกลางแจ้งโดยใช้โปรไฟล์กิจกรรม Trail Run หรือ Ultra Run

• การใช้เซ็นเซอร์ foot pod ระหว่างวิ่ง

• ภูมิประเทศที่คุณกำลังวิ่งอยู่นั้นเป็นเนินเขามาก

• หากตั้งค่าการปรับเทียบอัตโนมัติเป็น ปิด ภายใต้การตั้งค่า HRM Pace & Dist

• หาก Use for Pace ถูกตั้งค่าเป็น ตลอด ภายใต้การตั้งค่า HRM Pace & Dist

การปรับเทียบด้วยตนเอง

การปรับเทียบด้วยตนเองช่วยให้คุณปรับการคำนวณความเร็วและระยะทางบน HRM ของคุณโดยเฉพาะสำหรับการวิ่งบนลู่วิ่ง เมื่อสิ้นสุดการวิ่งบนลู่วิ่งที่บันทึกบนนาฬิกาอย่างน้อย 1.0 ไมล์ ให้เลือก ปรับเทียบและบันทึก ในเมนูที่ปรากฏขึ้นเมื่อคุณหยุดตัวจับเวลาบนนาฬิกา ใส่ระยะทางลู่วิ่งและบันทึก

หมายเหตุ: ข้อมูลการปรับเทียบจะบันทึกไว้ใน HRM ไม่ใช่บนนาฬิกา ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้ HRM กับนาฬิการุ่นอื่น หรือรีเซ็ตนาฬิกาของคุณ และการปรับเทียบจะไม่ได้รับผลกระทบ ข้อมูลการสอบเทียบจะถูกเก็บรักษาไว้ในระหว่างการอัพเดตซอฟต์แวร์หรือระหว่างการเปลี่ยนแปลงแบตเตอรี่ ไม่จำเป็นต้องปรับเทียบใหม่

หากคุณต้องการใช้ HRM-Pro หรือ HRM-Pro Plus สำหรับแหล่งสัญญาณการก้าวของคุณตลอดเวลา ขอแนะนำให้คุณ:

• เริ่มต้นด้วยการตั้งค่า Use for Pace สำหรับ กิจกรรมในร่ม ภายใต้การตั้งค่า HRM Pace & Dist

• สะสมการวิ่งประมาณ 2 ชั่วโมงตามช่วงอัตราการก้าวปกติของคุณ

  • ไม่จำเป็นต้องทำการวิ่งทั้งหมดในครั้งเดียว

• จากนั้นเปลี่ยนการตั้งค่า Use for Pace เป็น ตลอด

คำแนะนำความแม่นยำ

เคล็ดลับด้านล่างกำหนดให้ HRM-Pro หรือ HRM-Pro Plus จับคู่และเชื่อมต่อกับนาฬิกาของคุณ

• ความแม่นยำที่ดีที่สุดมักจะทำได้โดยการวิ่งกลางแจ้งหลายๆ ครั้งตามด้วยการปรับเทียบด้วยตนเอง

  • การปรับเทียบด้วยตนเองสามารถทำได้หลังจากวิ่งบนลู่วิ่งโดยเลือก ปรับเทียบและบันทึก แล้วป้อนระยะทางที่แสดงบนลู่วิ่ง

• กิจกรรมวิ่งกลางแจ้งควรครอบคลุมช่วงระยะเดียวกับที่คุณวิ่งบนลู่วิ่งตามปกติ ควรตั้งค่าการปรับเทียบอัตโนมัติเป็น เปิด

  • จากนาฬิกาของคุณ ไปที่เมนูเซนเซอร์และเลือก HRM > HRM Pace & Distance > ปรับเทียบอัตโนมัติ > เปิด
    

• กิจกรรมการวิ่งกลางแจ้งที่ภูมิประเทศส่งผลต่อรูปแบบการวิ่งของคุณ เช่น ทรายหรือหิมะลึก ควรตั้งค่าการปรับเทียบอัตโนมัติเป็น ปิด

  • จากนาฬิกาของคุณ ไปที่เมนูเซ็นเซอร์ของคุณ แล้วเลือก HRM > HRM Pace & Distance > ปรับเทียบอัตโนมัติ > ปิด

• หากคุณไม่ได้รับความแม่นยำตามที่ต้องการ ให้ลองรีเซ็ตข้อมูลการสอบเทียบ การดำเนินการนี้จะรีเซ็ตทั้งการปรับเทียบอัตโนมัติและการปรับเทียบด้วยตนเอง

  • จากนาฬิกาของคุณ ไปที่เมนูเซนเซอร์และเลือก HRM > HRM Pace & Distance > รีเซ็ตข้อมูลการปรับเทียบ

• สำหรับนักวิ่งบางคน การใช้เฉพาะการสอบเทียบแบบแมนนวลอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับสิ่งนี้ คุณจะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

• 1. รีเซ็ตข้อมูลการปรับเทียบภายใต้เมนูเซ็นเซอร์บนนาฬิกาของคุณ HRM > HRM Pace & Distance > รีเซ็ตข้อมูลการปรับเทียบ

  2. ปิดการปรับเทียบอัตโนมัติเป็นปิดภายใต้เมนูเซ็นเซอร์บนนาฬิกาของคุณ HRM > HRM Pace & Distance > ปรับเทียบอัตโนมัติ > ปิด

  3. เมื่อสิ้นสุดการวิ่งบนลู่วิ่งครั้งต่อไป ให้ป้อนระยะทางของลู่วิ่งเมื่อได้รับแจ้ง

• หากคุณพอใจกับความแม่นยำของอัตราการก้าวและระยะทางจาก HRM ให้ลองปิดการตั้งค่าการปรับเทียบอัตโนมัติ HRM > HRM Pace & Distance > ปรับเทียบอัตโนมัติ > ปิด